วันพุธที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

องค์ความรู้เรือโบราณ

 เรือโบราณ     

                     

            เมื่อเวลา
15.00 น.วันที่ 26 เม.ย. 2556 มีชาวบ้านขุดพบซากเรือโบราณ ภายในบ่อเลี้ยงกุ้ง พบเป็นเรือไม้ตะเคียนทอง ความยาว 12 เมตร กว้าง 1.5 เมตร ลึก 1.5 เมตร ขุดจากไม้ต้นเดียว อายุกว่า 100 ปี สภาพสมบูรณ์ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ถูกขุดขึ้นมาจากก้นบ่อเลี้ยงกุ้ง
            นายเสกสรร อุบลฤทธิ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/2 ม.2 ต.บ้านระกาศ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เจ้าของบ่อกุ้งเล่าว่า บ่อเลี้ยงกุ้งตรงที่ดังกล่าวตนเองเห็นมาตั้งแต่เกิด เนื่องจากเป็นสถานที่ทำมาหากินเลี้ยงชีพมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า ไม่เคยสังเกตเห็นความผิดปกติอะไร กระทั่ง 2 ปีที่แล้วขณะปล่อยน้ำออกจากบ่อกุ้งสังเกตเห็นมีไม้ฝังอยู่ก้นบ่อ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเนื่องจากคิดว่าอาจเป็นปีกไม้ ต่อมาก็เริ่มสังเกตเห็นว่าน่าจะเป็นเรือ แต่ก็ยังคิดว่าเป็นเรือพายลำเล็กๆ ธรรมดา กระทั่งเมื่อไม่กี่วันนี้หลังจากจับกุ้งขายหมดแล้วก็อยากจะปรับเกลี่ยดินก้นบ่อเพื่อเตรียมในการลงเลี้ยงกุ้งรอบใหม่ จึงนำรถแบ็กโฮมาขุด เมื่อขุดลงไปเล็กน้อยจึงรู้ว่าเป็นเรือลำใหญ่ และหากใช้รถแบ็กโฮขุดเรือคงจะได้รับความเสียหาย จึงให้รถแบ็กโฮหยุด จากนั้นในวันนี้ได้ระดมชาวบ้านช่วยกันขุดขึ้นมาด้วยเสียมเพื่ออยากให้เรือสมบูรณ์ที่สุด
              ด้านนายสมทรง ภู่ซ้อน รองนายก อบต.บ้านระกาศ กล่าวว่า หลังรับทราบจากชาวบ้าน ก็เดินทางมาตรวจสอบ พบว่าเป็นเรือโบราณที่ขุดจากต้นตะเคียนขนาดใหญ่ต้นเดียว จึงได้ขอให้ชาวบ้านมาช่วยกันขุดด้วยแรงงานมือขึ้นมาจากดิน จากนั้นใช้รถแบ็กโฮลากไปเก็บไว้ที่โรงเรียนวัดบางนางเพ็ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับจุดที่พบ เพื่อเก็บไว้ให้นักเรียน และเด็กรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้

          ประวัติ
มีจารึกในภาษาจาม พบในเมืองนาตรังประเทศเวียดนาม ราวศตวรรษที่ 12 เป็นหลักฐานกล่าวถึงชนชาติสยามซึ่งตั้งบ้านเรื่อนอยู่ในบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และอาจรู้จักการใช้เรือเป็นชาติแรก แต่หลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเดินเรือของคนไทยปรากฏอยู่บนศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง (พ.ศ. 1822-1843) แห่งกรุงสุโขทัย หลักที่ 4 ด้านที่ 4 กล่าวว่าการเดินทางด้วยเรือและถนน แสดงว่า มีการสร้างเรือมาแต่สมัยสุโขทัยแล้ว สันนิษฐานว่า ในสมัยนั้นมีการต่อเรือจากไม้ซุงทั้งต้น รวมไปถึงเรือที่ใช้ไม้กระดานต่อกันแล้วชันยา เดินทางไปมาหาสู่กันอย่างแพร่หลาย

ประเภทของเรือไทย
แบ่งตามฐานะ คือเรือหลวงกับเรือราษฏรเรือหลวง คือเรือที่ราษฎรไม่มีสิทธิ์นำมาใช้ ถือเป็นของสูง เช่น เรือพระราชพิธีในกระบวนพยุหยาตราชลมารค เรือพระที่นั่งกิ่ง เรือพระที่นั่งศรี เป็นต้น ส่วนเรือราษฎรได้แก่เรือทั่วๆ ไปที่ใช้ตามแม่น้ำลำคลอง

แบ่งตามชนิด คือเรือขุดและเรือต่อซึ่งยังอาจแบ่งออกเป็น 2 พวก คือเรือแม่น้ำพวกหนึ่ง เรือทะเลพวกหนึ่ง เรือแม่น้ำคือเรือที่ใช้ไปมาในแม่น้ำลำคลอง เป็นเรือขุดหรือเรือต่อ ได้แก่ เรือมาด เรือหมู เรือพายม้า เรือม่วง เรือสำปั้น เรืออีแปะ เรืออีโปง เรือบด เรือป๊าบ เรือชะล่า เรือเข็ม เรือสำปันนี เรือเป็ด เรือผีหลอก เรือเอี้ยมจุ๊น เรือข้างกระดาน เรือกระแชง เรือยาว เรือมังกุ เป็นต้น ส่วนเรือทะเลคือเรือที่ใช้ไปมาในทะเลและเลียบชายฝั่ง เป็นชนิดเรือต่อ ได้แก่ เรือฉลอม เรือฉลอมท้ายญวน เรือเป็ดทะเล เรือกุแหละ หรือเรือกุไหล่ เรือโล้ เรือสำเภา เรือปู เป็นต้นแบ่งโดยกำลังที่ใช้แล่น เช่น เรือพาย เรือกรรเชียง เรือแจว เรือโล้ เรือถ่อ เรือใบ

  ไม้ที่ใช้ทำเรือ
ไม้ที่ใช้ทำเรือมีทั้งไม้สัก ไม้ตะเคียน ไม้เคี่ยมหรือไม้ประดู่ซึ่งมีคุณภาพดีเหมาะในการต่อและขุดทำเป็นเรือ ไม้ตะเคียนจัดเป็นไม้ที่นิยมนำมาทำเป็นเรือ มีทั้งตะเคียนทอง ตะเคียนหิน ตะเคียนหนู ตะเคียนหยก ตะเคียนไพร ฯลฯ เพราะเป็นไม้เนื้อแข็งลอยน้ำได้ดี ไม่ผุง่ายแม้จะแช่อยู่ในน้ำนานๆ เรือที่นิยมทำจากไม้ชนิดนี้ได้แก่ เรือมาด เรือหมู เรือสำเภา เรือสำเภาและเรือยาวที่ใช้ในการแข่งขัน
สำหรับไม้สักนั้นนิยมใช้ทำเรือสำบั้น สำเภา เรือชะล่า เรือกระแชง เพราะเป็นไม้เนื้อแข็ง ไม่หดแตกง่าย ส่วนไม้ประดู่มีเนื้อเหนียวเป็นพิเศษนิยมใช้ทำเรือกระแชง เรือเมล์ เรือแท็กซี่ ส่วนไม้เคี่ยมมีคุณสมบัติคล้ายไม้สักแต่เนื้อไม้แข็งกว่า มีความยืดหยุ่นและน้ำหนักมากกว่าซึ่งหายากและมีถิ่นกำเนินทางภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป

ประเพณีและความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับเรือ
ปัจจุบันแม้เรือจะลดความสำคัญ แต่ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับเรือยังคงมีให้เห็น อาทิ การเล่นเพลงเรือ กฐินทางน้ำ ประเพณีชักพระภาคใต้ ประเพณีตักบาตรร้อยพระ จ.ปทุมธานีประเพณีแข่งเรือ ประเพณีเกี่ยวกับการทอดผ้าป่าทางเรือ มีทั้งของหลวงและของราษฎร แตกต่างกันตรงขนาดและเครื่องไทยทาน และอีกหลากหลายประเพณีตามท้องถิ่นความเชื่อเกี่ยวกับเรือ เช่น ห้ามเหยียบหัวเรือเพราะแม่ย่านางเรือประทับตรงนั้น เป็นกุศโลบายที่ต้องการให้ใช้เรืออย่างระมัดระวัง ถนอมเพราะเรือมีราคาแพง ห้ามพายเรือยังไม่แก้โซ่จะทำให้เรือล่ม ทั้งนี้เพราะหากกระชากเรือจากโซ่แทนการแก้ออกดีๆ จะทำให้เรือชำรุดเกิดอุบัติเหตุได้ ห้ามเหยียบเรือสองแคม ความหมายตรงๆ โดยไม่เล่นสำนวนคือการเหยียบเรือ 2 แคม จะทำให้เรือล่มหรือพลิกคว่ำเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ เป็น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น